Thursday, March 9, 2017

อาหารเพื่อสุขภาพ

อาหารเพื่อสุขภาพ

หมายถึงอาหารที่เมื่อรับเข้าไปแล้วน้ำหนักจะต้องอยู่ในเกฑ์ปรกติ ไม่เป็นโรคเรื้อรัง โดยการเพิ่มอาหารผักและผลไม้ ลดเกลือ ลดน้ำตาล ลดไขมัน

อาหารสุขภาพ

องค์การอนามัยโรคได้นิยามเรื่องอาหารสุขภาพว่า การรับประทานอาหารที่ไม่มีคุณภาพ ร่วมกับการไม่ออกกำลังกายจะเป็นบ่อเกิดโรคเรื้อรัง องค์การอนามัยโลกได้แนะนำอาหารสุขภาพดังนี้
  • อาหารเพื่อสุขภาพรับประทานอาหารที่สมดุลและมีน้ำหนักที่ปรกติ
  • ให้ลดอาหารไขมัน และหลีกเลี่ยงไขมันอิ่มตัว Saturated fat,Transfatty acid
  • ให้รับประทานอาหารพวกผัก ผลไม้ ธัญพืขเพิ่มมากขึ้น
  • ลดอาหารที่มีน้ำตาล
  • ลดอาหารเค็ม
สำหรับ National Health Service (NHS)ของประเทศอังกฤษได้นิยามอาหารสุขภาพไว้ว่า มีสองปัจจัยที่ต้องคำนึงถึงได้แก่
  • รับประทานอาหารที่ให้พลังงานสมดุลกับพลังงานที่ใช้ผลไม้
  • รับประทานอาหารที่มีความหลากหลาย
NHSจึงได้กำหนดแนวทางอาหารสุขภาพไว้ดังนี้
  • ทุกท่านต้องรู้จักจานอาหารสุขภาพซึ่งมีอาหารทั้งหมด 5 หมู่
  • ในจานอาหารสุขภาพจะบอกเราว่าควรจะรับประทานอาหารให้มีสัดส่วนอย่างไร
สำหรับสมาคมโรคหัวใจประเทศอเมริกาได้กำหนดอาหารสุขภาพไว้ดังนี้
  1. รับประทานผักและผลไม้เพิ่มโดยตั้งเป้าให้รับผักและผลไม้วันละ 4-5ส่วนทุกวัน
  2. ให้รับประทานธัญพืชเพิ่มEat more whole-grain foods.เนื่องจากผักและผลไม้มีไขมันต่ำ ใยอาหารสูงได้แก่  Whole-grain foods include whole-wheat bread, rye bread, brown rice and whole-grain cereal.
  3. ให้ใช้น้ำมัน olive, canola, corn or safflower oil สำหรับปรุงอาหารและจำกัดจำนวนที่ใช้ 
  4. รับประทานไก่ ปลา ถั่วมากกว่าเนื้อแดง เนื่องจากไก่ที่ไม่มีหนัง ปลา ถั่วจะมีปริมาณไขมันน้อยกว่าเนื้อแดง.
  5. อ่านฉลากก่อนซื้อหรือรับประทานทุกครั้งเพื่อเลือกอาหารที่มีคุณภาพ
หลักการง่ายๆที่จะทำให้เราได้รับอาหารเพื่อสุขภาพ

การแก้อสมการ

การแก้อสมการ


จากที่เพื่อนๆเคยเรียนผ่านกันมาเกี่ยวกับเรื่องการแก้สมการตัวแปรเดียว หรือว่าหลายตัวแปรนั้น มีความเกี่ยวเนื่องบางประการสำหรับการที่จะนำความรู้ของเรื่องสมการนั้นเพื่อนำมาใช้ในบทนี้
สำหรับหัวข้อนี้นั้น เราจะพูดถึงวิธีการแก้อสมการในรูปแบบต่างๆได้อย่างไร โดยที่คุณสัมบัติหลักที่ใช้มากในการแก้อสมการนั้น คือ คุณสมบัติการไม่เท่ากัน ได้แก่
1. คุณสมบัติการบวกด้วยจำนวนเท่ากัน
2. คุณสมบัติการลบด้วยจำนวนเท่ากัน
3. คุณสมบัติการคูณด้วยจำนวนจริงบวก
4. คุณสมบัติการคูณด้วยจำนวนจริงลบ
โดยการที่เราจะทำการแก้อสมการนั้น เราจะแยกตามประเภทของอสมการในแต่ละประเภทดังนี้คือ
 
การแก้อสมการกำลังหนึ่ง
อสมการกำลังหนึ่งนั้น เป็นอสมการที่มีตัวแปรยกกำลังหนึ่งเท่านั้น และสามารถที่จะจัดอสมการในรูปของ
ax \le b
ax < b
ax \ge b
ax > b

โดยที่เราจะกำหนดให้ x เป็นตัวแปร และ a,b เป็นค่าคงที่ และจากคุณสมบัติดังกล่าวนี้นั้น เราสามารถที่จะนำมาใช้ในการแก้ปัญหาอสมการประเภทนี้ โดยที่คุณสมบัติข้อ 1 และข้อ 2 นั้นจะถือว่าเป็น คุณสมบัติที่ช่วยในการจัดอสมการกำลังหนึ่งให้อยู่ในรูปที่แสดงดังอสมการข้างต้น และพวกเราสามารถที่นำความรู้นี้มาใช้ในการแก้ปัญหาจากโจทย์แบบฝึกหัดได้คะ
แบบฝึกหัด 6
1. x -  \le  5x-1

2. x-8  \le 7-3x  และ 7-3x < 1

3. 3 \le 2x+4 < 7

4. 3-x \le 2x+4 < 7

5. 3x < 4x+2 \le x+11
 
การแก้อสมการกำลังสอง
หัวข้อที่แล้วเรากล่าวถึงสมการยกกำลังหนึ่ง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาได้โดยง่าย เพราะจะยังไม่มีความซับซ้อนมากเท่าไหร่นัก ซึ่งจากแบบฝึกหัดที่พวกเราได้ทำกันไปแล้วนั้น จะช่วยให้เราสามารถเข้าใจ รับรู้ถึงเทคนิคหรือวิธีบางอย่างในการคำนวณได้ดีมากขึ้น
สำหรับในหัวข้อนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีสำหรับการแก้อสมการ แต่จะเพิ่มระดับความยุ่งยากขึ้นมามากกว่าเล็กน้อย นั่นคือ การแก้โจทย์ปัญหาอสมการกำลังสอง โดยที่การแก้อสมการประเภทนี้นั้น เราสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน เช่น การแยกตัวประกอบ หรือ การแก้โจทย์โดยที่ใช้วิธีกำลังสองสมบูรณ์
การแก้อสมการกำลังสองนั้น มีนิยามที่แสดงได้อย่างง่ายๆคือ อสมการกำลังสอง ใน x หมายถึง อสมการที่อยู่ในรูปของ
ax^2+bx+c&lt;0
ax^2+bx+c\le0
ax^2+bx+c&gt;0
ax^2+bx+c\ge0
โดยกำหนดให้ x เป็นตัวแปร และ a,b,c เป็นค่าคงที่ ที่ a
eq 0

ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วนั้นว่า วิธีการแก้อสมการกำลังสองนั้นมีวิธีได้หลายวิธี เรามาดูวิธีการแก้ปัญหาของแต่ละประเภทกันดีกว่านะคะ
 
1. การแก้สมการสมการกำลังสองโดยการแยกตัวประกอบ
และสิ่งที่จะเอ่ยดังต่อไปนี้ จะเป็นวิธีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับอสมการอย่างง่ายๆ โดยที่เราจะสรุปเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจมากขึ้นนะคะ โดยขั้นตอนในการแก้ปัญหานั้นมีขั้นตอนดังนี้

การแก้อสมการกำลัง 2
อ้างโดยนิยามที่กล่าวไปดังก่อนหน้านี้ เราสามารถที่จะแสดงวิธีในการแก้อสมการได้ดังนี้
1. จัดอสมการเปรียบเทียบกับ 0
2. แยกตัวประกอบ
3. พิจารณาเครื่องหมาย +,-
4. หาคำตอบจากสมการกำลัง 1 จากทั้ง 2 กรณีแล้วนำมายูเนี่ยนกัน ซึ่งพวกเราสามารถที่จะนำขั้นตอนดังกล่าวมาใช้ได้โดยที่จะสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง เช่นตัวอย่างดังต่อไปนี้
ตัวอย่างที่ 1
จงหาเซตคำตอบของสมการ 3x^2+10x \ge 8
วิธีทำ 3x^2+10x \ge 8
3x^2+10x-8 \ge 0 : จัดสมการเปรียบเทียบกับ 0
 (x+4)(3x-2) \ge 0 : แยกตัวประกอบ
ซึ่งเราจะต้องแบ่งเครื่องหมายในการพิจารณา โดยมีกรณีดังนี้
1. (+)(+) หรือ
2. (-)(-) หรือ
อีกกรณีหนึ่งที่มีเครื่องหมายต่างกัน เราสามารถที่จะแบ่งได้เป็นสองกรณีเช่นกัน แล้วสุดท้ายจะนำคำตอบที่ได้มายูเนี่ยนกัน
1. x+4 \ge 0 และ 3x-2 \ge 0 x \ge -4 และ x \ge \frac{2}{3}

การแก้สมการ

การแก้สมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว
ตัวอย่างที่ 1    จงแก้สมการ    a – 12 = 35
        วิธีทำ      a – 12  =  35
                      นำ 12 มาบวกทั้งสองข้างของสมการ
                      จะได้  a – 12 + 12  =  35 + 12
                                                  a = 47

ตัวอย่างที่ 2    จงแก้สมการ   

     
   วิธีทำ     
                        นำ 2 มาลบทั้งสองข้างของสมการ 
                        นำ 3 มาคูณทั้งสองข้างของสมการ 
                                                               

ตัวอย่างที่ จงแก้สมการ  5x + 3 = 3x - 5
         วิธีทำ         5x + 3 = 3x - 5
                        นำ -3x  มาบวกทั้งสองข้างของสมการ
                        จะได้     (-3x) + 5x + 3 = (-3x) + 3x – 5
               (-3 + 5)x + 3 = (-3 + 3)x – 5
                         2x + 3 =   -5
                       นำ 3 มาลบทั้งสองข้างของสมการ
                       จะได้         2x + 3 – 3 = -5 – 3
                                                     2x = -8

                       นำ 2 มาหารทั้งสองข้างของสมการ 

ตัวอย่างที่  จงแก้สมการ  1.5y   =   -7.5
          วิธีทำ      1.5y   =   -7.5

                         นำ  1.5 มาหารทั้งสองข้างของสมการ 
                                 



https://sites.google.com/a/mail.pbru.ac.th/mathematics-highschool1/khnitsastr-m-1-lem-2/bth-thi-4-smkar-cheing-sen-tawpaer-deiyw/reuxng-kar-kae-smkar-cheing-tawpaer-deiyw

        ตรวจสอบ   แทน   ด้วย  47  ในสมการ  a - 12 = 35
                    จะได้  47 – 12  =  35
                                   35  =  35  เป็นสมการที่เป็นจริง
       ดังนั้น  47  เป็นคำตอบของสมการ  a - 12 =  35
       ตอบ   47 

ตรวจสอบ   แทน   z  ด้วย  15 ในสมการ 
 
 
                         
                                          5 + 2   =  7  เป็นสมการที่เป็นจริง
        ดังนั้น  15  เป็นคำตอบของสมการ   
        ตอบ   15



           ตรวจสอบ   แทน   ด้วย  - 4 ในสมการ 5x + 3 = 3x - 5
                       จะได้    [5 ×(-4)] + 3 = [3 ×(-4)] -5
                                             -20 + 3 = -12 -5
                                                   -17 = -17  เป็นสมการที่เป็นจริง
                       ดังนั้น  - 4  เป็นคำตอบของ  5x + 3 = 3x - 5
                  ตอบ   - 4


           ตรวจสอบ   แทน   ด้วย  - 5 ในสมการ 1.5y = -7.5
                                          จะได้    1.5 × (-5) = -7.5
                                                                -7.5 = -7.5   เป็นสมการที่เป็นจริง
                           ดังนั้น  - 5  เป็นคำตอบของ  1.5y = -7.5
               ตอบ   - 5



การหา ห.ร.ม.

หารร่วมมาก (ห.ร.ม) คูณร่วมน้อย (ค.ร.น)



สวัสดีค่ะ หลังจากบทความก่อนหน้า ในเรื่อง “ตัวประกอบและจำนวนเฉพาะ” ซึ่งเป็นเนื้อหาพื้นฐานเพื่อนำไปสู่เนื้อหาถัดไปในเรื่อง หารร่วมมาก (ห.ร.ม) และ คูณร่วมน้อย (ค.ร.น)  มาเริ่มการเรียนรู้กับครูออนไลน์กันเลยค่ะ
หารร่วมมาก (ห.ร.ม)  คือ จำนวนเต็มที่มากที่สุดที่สามารถนําไปหารจำนวนตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปพร้อมกันได้ลงตัวทั้งหมด
คูณร่วมน้อย (ค.ร.น) คือ จำนวนเต็มที่น้อยที่สุดที่สามารหารด้วยจำนวนตั้งแต่สองจำนวนขึ้นไปได้ลงตัวทั้งหมด
วิธีการหา ห.ร.ม และ ค.ร.น มีทั้งหมด 3 วิธี ได้แก่ “การแยกตัวประกอบ”, “การหารสั้น” และการหาร ห.ร.ม ด้วยวิธี“ยูคลิด” (สำหรับ ห.ร.ม เท่านั้น)
——————————————————————————————————–

1. การแยกตัวประกอบ

ตัวอย่าง จงหา ห.ร.ม และ ค.ร.น ของ  12  18  24
วิธีทำ
ตัวประกอบของ 12 ได้แก่  2 × 2 × 3
ตัวประกอบของ 18 ได้แก่  2 × 3 × 3
ตัวประกอบของ 24 ได้แก่  2 × 2 × 2 × 3
ห.ร.ม ของ 12  18  24  ได้แก่ จำนวนเฉพาะที่เหมือนกันทั้งหมดของทั้ง 3 จำนวน ดังแสดงด้านล่าง
12 =  2 × 2 × 3
18 =  2 × 3 × 3
24 =  2 × 2 × 2 × 3
จำนวนเฉพาะที่เหมือนกันของทั้ง 3 จำนวน 2 และ 3 ดั้งนั้น ห.ร.ม ของ 12  18  242 × 3  = 6
ค.ร.น ของ 12  18  24  ได้แก่ จำนวนเฉพาะที่เหมือนกันบางส่วนของทั้ง 3 จำนวน ดังแสดงด้านล่าง
12 =  2 × 2 × 3
18 =  2 × 3 × 3
24 =  2 × 2 × 2 × 3
เหมือนกันทั้งหมด ได้แก่ 2 และ 3
เหมือนกันสองคู่ ได้แก่ 2
ไม่เหมือนกันเลย ได้แก่ 3 และ 2
ดั้งนั้น ค.ร.น ของ 12  18  24 = 2 × × 2 × 3 × = 72
——————————————————————————————————–

2. การหารสั้น

สำหรับการหา ห.ร.ม ด้วยวิธีการหารสั้น มีหลักที่แตกต่างจากการการ ค.ร.น อยู่ตรงที่
– สำหรับ ห.ร.ม : จำนวนเฉพาะที่จะนำมาเป็นตัวหารจะต้องสามารถหารทุกจำนวนลงตัว หากไม่สามารถมีจำนวนเฉพาะใดๆที่หารได้แล้ว การหารสั้นนั้นจะหยุดทันที และ ห.ร.ม ที่ได้จะเกิดจากการนำ ตัวหารทุกจำนวนมาคูณกัน
– สำหรับ ค.ร.น : จำนวนเฉพาะที่จะนำมาเป็นตัวหารต้องสามารถหารจำนวนเต็มได้ลงตัวอย่างน้อยสองจำนวนขึ้นไป หารไปเรื่อยๆจนไม่สามารถมีจำนวนเฉพาะใดๆที่หารจำนวนทั้งหมดได้แล้ว การหารสั้นนั้นจะหยุดทันที และ ค.ร.น ที่ได้จะเกิดจากการนำตัวหารทุกจำนวนและเศษทุกจำนวนมาคูณกัน
ตัวอย่าง จงหา ห.ร.ม และ ค.ร.น ของ  12  18  24
วิธีหา ห.ร.ม
หารร่วมมาก
ตอบ ห.ร.ม = 2 × 3 = 6
วิธีหา ค.ร.น
คูณร่วมน้อย
ตอบ  ค.ร.น = 2 × 3 × 2 × 1 × 3 × 2 = 72
——————————————————————————————————–

3. การหา ห.ร.ม แบบวิธียูคลิด

สำหรับการหา ห.ร.ม ด้วยวิธียูคลิด จะใช้ในกรณีที่ต้องการหา ห.ร.ม สำหรับตัวเลขเยอะๆ เช่น
จงหา ห.ร.ม ของ 1500 และ 2050
ขั้นตอนที่ 1 นำตัวเลขที่มีค่าน้อยหารตัวเลขที่มีค่ามาก ในที่นี้คือ 2050 ÷ 1500 ได้เศษ 550 ดังนี้
หารร่วมมากยูคลิด
ขั้นตอนที่ 2 นำเศษที่ได้จากการหารรอบแรกมาหารตัวหารตัวแรก คือ 1500  ÷  550 ได้เศษ 400 ดังนี้
หารร่วมมากยูคลิดขั้นตอนที่ 3 ทำเช่นขั้นตอนที่ 2 โดยนำเศษที่ได้จากการหารรอบก่อนหน้ามาหารตัวหารก่อนหน้าเช่นกัน คือ 500  ÷  400 ได้เศษ 400
หารร่วมมากยูคลิค
ขั้นตอนที่ 4  นำเศษที่ได้จากการหารในที่นี้คือ 150 มาหารตัวหารคือ 400 ดังนี้ 400  ÷ 150 ได้เศษ 100
หารร่วมมากยูคลิด
ขั้นตอนที่ 4  นำ 100 มาหาร 150 ดังนี้ 150  ÷ 100 ได้เศษ 50
หารร่วมมากยูคลิด
ขั้นตอนที่ 5  นำ 50 มาหาร 100 ดังนี้ 100  ÷ 50 ได้เศษ 0
หารร่วมมากยูคลิด
เมื่อทำการหารไปเรื่อยๆจนได้เศษ = 0 หรือหารลงตัวนั้นเอง ตัวหารสุดท้ายที่ได้ คือคำตอบของ ห.ร.ม ดังตัวอย่างที่กล่าวมา

ห.ร.ม ของ 1500 และ 2050 = 50